สวัสดีค่ะน้อง ๆ และผู้ปกครองทุกท่าน รู้กันไหมคะว่าทางเลือกในการศึกษาต่อระดับมัธยมปลายไม่ได้มีแค่การเรียนในระบบสามัญอย่างเดียว? ในยุคที่การศึกษามีความหลากหลายมากขึ้น หลายครอบครัวเลือกที่จะให้ลูกเรียน Homeschool หรือหลายคนต้องออกจากระบบการศึกษาปกติไปด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ศิลปิน หรือมีความจำเป็นส่วนตัว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน เพราะปัจจุบันมีการสอบเทียบที่เปิดโอกาสให้คุณได้พิสูจน์ความรู้ความสามารถและก้าวต่อไปสู่ระดับอุดมศึกษาได้อย่างเต็มที่

พอพูดถึงการสอบเทียบ ตัวเลือกหลักที่ทุกคนรู้จักกันดีก็คือระบบสอบเทียบ GED และ IGCSE คำถามยอดฮิตที่เข้ามาในทุก ๆ วันก็คือ IGCSE กับ GED ต่างกันยังไง และสุดท้ายแล้ว IGCSE กับ GED อันไหนดีกว่าสำหรับเส้นทางเรียนต่อ?

วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกแบบหมดเปลือก เปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ แบบหมัดต่อหมัดเลยค่ะว่าวุฒิทั้งสองนี้มีรายละเอียดอย่างไร เพื่อให้น้อง ๆ และผู้ปกครองสามารถวางแผนการเรียนต่อได้อย่างมั่นใจที่สุดค่ะ

 

สอบเทียบมีอะไรบ้าง? เข้าใจภาพรวมก่อนเลือกเส้นทาง

ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเลือกสอบอะไร เรามาทำความเข้าใจก่อนว่าสอบเทียบวุฒิ ม.6 มีอะไรบ้าง การสอบเทียบคือการใช้วุฒิหรือผลสอบบางประเภทมาแสดงว่าเรามีความรู้ระดับเทียบเท่ามัธยมปลาย เพื่อใช้สมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัย

เส้นทางสอบเทียบมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าอยากไปต่อที่ไหน เช่น

ดังนั้น เวลาถามว่าสอบเทียบวุฒิ ม.6 มีอะไรบ้าง คำตอบจริงๆ คือ “ขึ้นอยู่กับปลายทางที่เราอยากไป” ไม่ได้มีแค่เส้นทางเดียวที่ถูกต้องที่สุด แต่บทความนี้จะโฟกัสที่สองชื่อที่ครอบครัวคนไทยเจอบ่อยที่สุด คือ IGCSE กับ GED แล้วเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ว่าแบบไหนเหมาะกับแผนเรียนต่อของคุณมากกว่ากัน

 

ทำความรู้จัก IGCSE กับ GED แบบสั้น กระชับ เห็นภาพ

เพื่อให้น้องๆ สามารถเลือกเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองได้ดีที่สุด มาทำความรู้จักกันก่อนว่า IGCSE และ GED คืออะไรกันแน่ มีรากฐานมาจากไหน ถูกออกแบบมาเพื่อใคร และมีลักษณะเด่นอย่างไรค่ะ

1. IGCSE คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง

International GCSE หรือ IGCSE (International General Certificate of Secondary Education)  เป็นหลักสูตร “ระดับมัธยมปลายตอนต้น” (ช่วงรอยต่อ ม.ต้น → ม.ปลาย)โดยปกติจะเรียนเมื่ออายุประมาณ 14–16 ปี ซึ่งเทียบเคียงกับระบบไทยคือ ม.3 – ม.4 (ปลายมัธยมต้นถึงต้นมัธยมปลาย) เป็นช่วง เตรียมตัวก่อนเข้า A-Level, IB, หรือ Foundation
จึงสรุปได้ว่า International GCSE  เป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่าง มัธยมต้น → มัธยมปลายของอังกฤษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก การจัดการสอบคุณวุฒินี้ในประเทศอังกฤษ เรียกว่า GCSE (General Certificate of Secondary Education) โดย Pearson Edexcel สำหรับการจัดสอบนอกราชอาณาจักรจะเป็นการจัดสอบแบบนานาชาติ (International) ซึ่งองค์กรคุณวุฒิที่จัดสอบได้แก่ International GCSE โดย Pearson Edexcel และ Cambridge Assessment International Examination ซึ่ง Cambrige จะใช้ชื่อที่เรียกย่อว่า IGCSE เป็นเครื่องหมายการค้า สำหรับ Pearson Edexcel ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในระดับคุณวุฒิที่สูงขึ้นได้แก่ IAL คือ International A – Level ส่วน Cambridge จะใช้คำว่า A-Level

 

ตาราง International GCSE / IAL เทียบเคียงกับระบบไทยแบบย่อ
(เทียบเคียง แต่ไม่เทียบเท่า)

น้องๆต้องได้คะแนน International GCSE / IGCSE ก่อน จึงจะสมัครเพื่อสอบวุฒิอื่นต่อ เช่น International A-Level (IAL), IB Diploma, หรือ Foundation (Level 3) ของอังกฤษได้ โดยมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ ในแต่ละคณะจะกำหนดเกณฑ์การรับสมัครว่า นักเรียนต้องมีเกรดในวิชาใดบ้าง เช่น ถ้าน้องๆฝันจะสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย University of Oxford สาขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ International Relations ต้องวางแผนตั้งแต่ระดับ IGCSE → International A-Level แบบ “เป๊ะ” ก่อนอื่นขอดูรายละเอียดชื่อคณะที่จะเรียนที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งให้ชัดเจนก่อน:

 

สรุปโดยย่อสำหรับการเลือกลงวิชาในระดับต่างๆ

หลักสูตรนี้เน้นการเรียนรู้แบบลึกซึ้งในหลายวิชา นักเรียนต้องเรียนและสอบอย่างน้อย 5 วิชา ซึ่งประกอบด้วยวิชาบังคับอย่างคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิชาเลือกซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันที่อาจมีความแตกต่างกันในเรื่องจำนวนวิชาที่เรียน และวิชาบังคับ ระยะเวลาเรียนโดยทั่วไปใช้เวลา 2 ปี แต่นักเรียนที่มีพื้นฐานดีอาจเร่งรัดได้ใน 1 ปี

Internatioanl GCSE เหมาะกับนักเรียนที่วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษ ยุโรป หรือเอเชีย ชอบการเรียนแบบมีโครงสร้างและเน้นเนื้อหาวิชาการ และต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกวิชา สำหรับมหาวิทยาลัยในไทยในหลักสูตรอินเตอร์ก็รับนักเรียนที่มีคะแนนนี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับคนที่สนใจติว International GCSE / IGCSE ควรเริ่มเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 6-12 เดือน เพราะเนื้อหาแต่ละวิชามีความลึกและต้องการความเข้าใจเชิงวิชาการสูง การติวสอบที่ EFL Thailand สามารถติวได้ทั้งข้อสอบระบบ Pearson Edexcel (ระบบเกรด Band 1-9) และ Cambridge (ระบบเกรด C – A*) เราจะช่วยวางแผนการเรียนให้เหมาะกับระดับความรู้และเป้าหมายของแต่ละคน พร้อมทั้งฝึกทำข้อสอบจริงเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ลองอ่านวิธีทำคะแนนสอบ IGCSE ให้ได้เต็มจากประสบการณ์จริงของนักเรียน EFL Thailand ได้เลย

สิ่งที่ทำให้ International GCSE ได้รับความนิยมคือ

2. GED คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง

GED (General Educational Development) เป็นการสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาของอเมริกา ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ไม่ได้จบการศึกษาระดับมัธยมปลายแบบปกติ หรือต้องการวุฒิการศึกษาเทียบเท่า High School Diploma

GED สอบรวมทั้งหมด 4 วิชา ได้แก่ Reasoning Through Language Arts (การอ่านและการเขียน), Mathematical Reasoning (คณิตศาสตร์), Science (วิทยาศาสตร์), และ Social Studies (สังคมศึกษา) รูปแบบการสอบเป็นแบบ Computer-Based ทั้งหมด (ที่สำคัญคือต้องสอบผ่าน GED Ready ก่อน)

หากสงสัยว่า GED เหมาะกับใคร คำตอบก็คือ นักเรียนที่ต้องการวุฒิการศึกษาเร็ว  มีงบประมาณจำกัด หรือวางแผนเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา หรือแคนาดาโดยเฉพาะค่ะ เนื้อหาของ GED จะครอบคลุมความรู้ทั่วไปในระดับมัธยมปลาย แต่ไม่ลึกซึ้งเท่า International GCSE / IGCSE

การเตรียมตัวติว GED ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถทำได้ในระยะเวลา 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับพื้นฐานความรู้ โดยเฉพาะทักษะภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์พื้นฐาน การติวสอบ GED ที่ดีควรเน้นการทำความเข้าใจรูปแบบข้อสอบและฝึกทำแบบทดสอบจำลองบ่อยๆ

 

เปรียบเทียบการสอบ International GCSE/IGCSE  vs GED 
ต่างกันยังไง?

การตัดสินใจระหว่าง IGCSE และ GED ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 3 ประการคือ เป้าหมายการเรียนต่อ ระยะเวลาที่มี และ ความถนัดด้านวิชาการ ของผู้เรียน ตารางเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้น้อง ๆ และผู้ปกครองเห็นความแตกต่างที่สำคัญค่ะ

  1. ระบบการศึกษา (Education System) 

International GCSE/IGCSE:

GED:

  1. เทียบวุฒิการศึกษา (Educational Equivalency) 

International GCSE/IGCSE 

GED:

วุฒิ GED เมื่อสอบผ่านครบ 4 วิชา จะถูกรับรองให้เทียบเท่าวุฒิ ม.6 ในระบบไทยและเป็นที่ยอมรับในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยนานาชาติส่วนใหญ่ในไทย

  1. อายุที่สอบได้ (Minimum Age to Take the Exam) 

International GCSE/IGCSE 

องค์กรผู้จัดสอบ (เช่น Cambridge) ไม่ได้กำหนดอายุขั้นต่ำ อย่างชัดเจน ผู้สมัครจึงสามารถสอบได้เมื่อพร้อมทางวิชาการ อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วผู้ที่อยู่ในระบบนานาชาติจะสอบในช่วงอายุ 14–16 ปี

GED:

ในประเทศไทย (และหลายประเทศ) กำหนดให้ผู้สอบต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ขึ้นไป ณ วันที่เข้าสอบ สำหรับผู้ที่มีอายุ 16-17 ปี จะต้องมีเอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง (Signed Parental Consent Form) เพื่อยืนยันว่าอนุญาตให้ลูกหลานเข้ารับการสอบเทียบวุฒิ

 

  1. ช่องทางการสมัคร (Registration Channels) 

IGCSE:

GED:

  1. รอบการสอบ (Exam Schedule)

International GCSE/IGCSE:

จัดสอบเพียงปีละ 2 รอบใหญ่ ตามปฏิทินขององค์กรคุณวุฒิผู้ออกข้อสอบ (Pearson Edexcel หรือ Cambridge Assessment International Education) ผู้เรียนต้องวางแผนการเตรียมตัวให้สอดคล้องกับรอบสอบที่เปิด ทำให้มีกรอบเวลาที่เข้มงวดในการเตรียมตัว

GED:

มีความยืดหยุ่นสูงมาก น้อง ๆ สามารถเลือกวันและเวลาสอบที่ว่างของศูนย์สอบได้เกือบทุกวันทำการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เร่งรัดเวลา หรือมีตารางชีวิตที่ไม่แน่นอน (เช่น นักกีฬา, ศิลปิน)

  1. จำนวนวิชาที่ใช้สอบ (Number of Subjects)

International GCSE/IGCSE:

ต้องสอบผ่านอย่างน้อย 5 วิชา เพื่อให้สามารถนำไปเทียบวุฒิ ม.4 ได้ (ตามข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการไทย) และต้องสอบวุฒิอื่นต่อเพื่อเทียบวุฒิ ม.6 หรือใช้ตามเกณฑ์การรับเข้าเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัย

GED:

สอบเพียง 4 วิชาเท่านั้น เมื่อสอบผ่านครบทุกวิชาตามเกณฑ์ก็ถือว่าสำเร็จวุฒิเทียบเท่า ม.6



  1. โครงสร้างคะแนน (Score Structure) 

International GCSE/IGCSE:

GED:

  1. ค่าใช้จ่ายรวม (Total Cost) 

IGCSE:

ค่าใช้จ่ายสูงกว่ามาก เพราะ

GED:

เนื่องจากมีเพียง 4 วิชา และมีราคาต่อวิชาที่ไม่สูงนัก ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมต่ำกว่า แม้จะต้องสอบ GED Ready ให้ผ่านก่อนก็ตาม เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการประหยัดงบประมาณและเวลา

  1. การยอมรับในประเทศไทย (Thai Recognition) 

International GCSE/IGCSE:

โดยหลักแล้ว IGCSE เป็นวุฒิระดับต้นของมัธยมปลาย ดังนั้น เวลายื่นมหาวิทยาลัยไทย (โดยเฉพาะหลักสูตรอินเตอร์) จะต้องการวุฒิระดับมัธยมปลาย ได้แก่ International A-Level, AS Level, BTEC Level 3 หรือ Foundation เมื่อยื่นใบสมัครเข้ามหาวิทยาลัยไทยหลายแห่ง

GED:

GED ถูกจัดอยู่ในกลุ่มวุฒิมัธยมปลายระบบอเมริกัน มหาวิทยาลัยไทยหลายแห่ง (โดยเฉพาะสายอินเตอร์) เขียนชัดเจนว่ารับ “GED” เป็นหนึ่งในวุฒิที่สามารถใช้ยื่นสมัครได้ แต่จะกำหนดเงื่อนไขคะแนนขั้นต่ำ เช่น ผ่านทั้ง 4 วิชา และบางแห่งอาจกำหนดคะแนนรวมขั้นต่ำด้วย

  1. การยอมรับในต่างประเทศ (International Recognition)

International GCSE/IGCSE:

เป็นที่รู้จักในหมู่อาจารย์มหาวิทยาลัยทั่วโลกในฐานะหลักสูตรที่มีความเข้มข้นทางวิชาการและเป็นฐานที่ดีสำหรับหลักสูตรระดับสูง (เช่น International A-Level) อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราเน้นย้ำกันมาตลอดก็คือมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะพิจารณาเกรดในระดับมัธยมปลายตอนต้น International GCSE/IGCSE และ ระดับมัธยมปลายตอนปลาย (International A-Level หรือ IB หรือ Foundation Level 3) พร้อมกัน

GED:

มหาวิทยาลัยทั่วโลกยอมรับ GED เป็นวุฒิ ม.6 ที่สมบูรณ์ ผู้สมัครสามารถใช้ GED ยื่นได้โดยไม่ต้องสอบวุฒิอื่นต่อ (แต่ต้องมีผลสอบวัดความถนัด/ภาษาอังกฤษอื่น ๆ เช่น SAT/ACT/IELTS ประกอบ) 

ข้อควรระวัง: แม้ GED จะได้รับการยอมรับ แต่การแข่งขันในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกที่เน้นวิชาการสูง (Top-Tier Research Universities) ผู้สมัคร GED มักจะต้องมีคะแนน SAT/ACT และ AP Exams ในระดับสูงมาก เพื่อชดเชยความลึกของเนื้อหาเมื่อเทียบกับผู้ที่สอบ A-Level หรือ IB มาโดยตรง

 

IGCSE กับ GED อันไหนดีกว่า? เช็กลิสต์ช่วยตัดสินใจ

จากข้อมูลเปรียบเทียบทั้งหมด เราได้รวบรวมเป็น เช็กลิสต์ (Checklist) ช่วยตัดสินใจ โดยเริ่มจากสรุปข้อดีข้อเสีย และตามด้วยคำถามสำคัญที่ต้องตอบตัวเองค่ะ

 

International GCSE/IGCSE
(ไม่ใช่การสอบเทียบ แต่เป็นการศึกษาตามหลักสูตรประเทศอังกฤษ)

GED

(เป็นการสอบเทียบของประเทศสหรัฐอเมริกา)

🟢 ข้อดี (Pros) 🟢 ข้อดี (Pros)
  เป็นการปูทางเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก Top Tier Universities ซึ่งส่วนใหญ่ไม่รับวุฒิ ม.6
  สามารถสมัครสอบได้ โดยไม่จำกัดว่าผู้สอบเรียนหลักสูตรอะไรมา ไม่จำกัดอายุผู้สอบ ไม่จำกัดสถาบันการศึกษา หากสอบได้ ก็จะได้รับ Transcript แสดงเกรดตามหลักสูตรอังกฤษไปเลย

  สามารถเลือกทะยอยสอบรายบทได้ สอบใหม่ได้
✔ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติ

  เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าคณะเฉพาะทาง (เช่น วิศวะ, แพทย์) หลักสูตรนานาชาติ

  จำนวนวิชาน้อย โฟกัสง่าย

  ได้วุฒิเทียบเท่า ม.6 จบในตัว อย่างรวดเร็ว

  มีความยืดหยุ่นสูงในการเลือกวันและเวลาสอบ และสอบได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอรอบสอบใหญ่
  ค่าใช้จ่ายรวมต่ำกว่ามาก (ประมาณ 10,800 – 12,000 บาท)

 

🔴 ข้อเสีย (Cons) 🔴 ข้อเสีย (Cons)
  ไม่ใช่การสอบเทียบ แต่เป็นการวางแผนเพื่อปูทางสู่มหาวิทยาลัย Top ของโลก ซึ่งจะต้องวางแผนการเรียนให้เป๊ะเป็นชุดวิชา

  ต้องใช้คะแนนเพื่อสมัครสอบในระดับมัธยมปลาย (International A-Level/IB) จึงจะจบการศึกษาในระดับม.ปลาย

  มีรอบจัดสอบจำกัด (ปีละ 2 ครั้ง)

  ค่าใช้จ่ายรวมสูงกว่ามาก (รวมค่าสอบต่อเนื่อง)

  องค์ความรู้น้อยกว่า ความลึกของเนื้อหาน้อยกว่า International GCSE/IGCSE มากและจะต้องใช้คะแนนอื่นเพิ่ม เพื่อพิสูจน์ความสามารถ

  มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกส่วนใหญ่ไม่รับ GED เพียงอย่างเดียว

  เน้นความรู้ทั่วไป ไม่ได้เน้นการเรียนรู้เฉพาะทางที่ลึกซึ้ง ทำให้การเรียนจริงในระดับอุดมศึกษาน้องๆอาจมีความรู้ไม่เพียงพอ

 

ลองตอบคำถามเหล่านี้เพื่อดูว่าวุฒิใดตรงกับความต้องการของน้องๆ มากที่สุด

 

เช็กลิสต์ช่วยตัดสินใจ

International GCSE/IGCSE 

GED

เป้าหมายปลายทางคือมหาวิทยาลัยในอังกฤษ ยุโรป ออสเตรเลีย หรือ มหาวิทยาลัย Top-Tier ระดับโลก

เป้าหมายปลายทางคือมหาวิทยาลัยอินเตอร์ในไทย หรือมหาวิทยาลัยที่รับวุฒิเทียบเท่า ม.ปลายแบบอเมริกัน

ชอบอ่านหนังสือลึก ๆ แยกเป็นรายวิชา ทำโน้ต ทำแบบฝึกหัดเป็นเรื่องเป็นราว สนุกกับวิทย์–คณิตหรือวิชาการจัดเต็ม

ชอบฝึกทำโจทย์ข้อสอบ อ่านโจทย์ยาว ๆ แล้วจับประเด็น ตอบตามข้อมูล ไม่อยากเรียนหลายวิชาเกินไป แต่อ่านให้แน่นในไม่กี่วิชา

มีเวลาเตรียมตัวน้อย ไม่เกิน 3–12 เดือน

ครอบครัวมีงบประมาณค่อนข้างจำกัด แต่ต้องการได้วุฒิ ม.6 ที่ใช้ยื่นมหาวิทยาลัยได้รวดเร็ว

พร้อมลงทุนความรู้ในระยะยาวเพื่อให้ได้พื้นฐานแน่น 

 

การตัดสินใจระหว่างการเลือกสอบ International GCSE/IGCSE และ GED ไม่ใช่เรื่องของดีหรือไม่ดี แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสม ถ้าน้องๆ มีเวลาและต้องการพื้นฐานที่แข็งแกร่ง IGCSE อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าต้องการความรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย GED อาจตอบโจทย์มากกว่า

สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลให้ดี วางแผนล่วงหน้า และเตรียมตัวอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน การมีครูหรือสถาบันที่มีประสบการณ์คอยช่วยเหลือจะทำให้การเตรียมตัวของคุณราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่ EFL Thailand เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อมในทุกเส้นทางสู่หลักสูตรนานาชาติ เรามีคอร์สเตรียมสอบ International GCSE/IGCSE และ International A-Level ที่ออกแบบมาเพื่อให้น้อง ๆ สามารถสอบผ่านเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยชั้นนำกำหนดได้อย่างมั่นใจ โดยเน้นการสอนเนื้อหาที่เข้มข้นตรงตามหลักสูตร และการฝึกทำข้อสอบย้อนหลังเพื่อให้น้อง ๆ คุ้นชินกับรูปแบบข้อสอบจริง 

ยิ่งไปกว่านั้น EFL Thailand ยังเป็น ศูนย์สอบ IGCSE & International A-Level สำหรับนักเรียนที่ไม่จำกัดรูปแบบการศึกษา (Private Candidate) 100% แห่งแรกของภาคเหนือ การเป็นศูนย์สอบอย่างเป็นทางการนี้ ช่วยให้น้องๆ ในภาคเหนือสามารถสอบเทียบวุฒิได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นมืออาชีพและมาตรฐานการศึกษาที่น่าเชื่อถือของเรา ในการเตรียมพร้อมนักเรียนสู่วุฒิการศึกษาระดับโลกอย่างแท้จริง

เราพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบแผนการเรียนที่เหมาะสมกับน้องๆ แต่ละคนค่ะ

Free Email Signature Generator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Skip to content