วันนี้เราจะว่ากันด้วยเรื่อง “การเล่น” ของเด็กๆ โดยเฉพาะเลยนะคะ เคยไหมคะที่คุณพ่อคุณแม่พยายามอย่างยิ่งที่อยากจะให้ลูกมีเพื่อน เล่นกับเพื่อน แล้วพอพาเด็กน้อยมาเจอกัน กลับกลายเป็นว่า เด็กร้องไห้งอแง แย่งของกัน ตีกัน สุดท้ายคนที่ต้องกลุ้มใจคือ คุณพ่อคุณแม่ เรื่องนี้มีทางออกค่ะ หนึ่งในวิธีที่ช่วยเสริมสร้างการเล่นและพัฒนาทักษะสังคมของเด็กได้อย่างดี คือการเลือกเข้าร่วมคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอย่างคอร์ส English Playground ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ลูกได้เล่นสนุกกับเพื่อนๆ แล้ว ยังเป็นการเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมฝึกฝนภาษาอังกฤษไปในตัว ทำให้เด็กๆ รู้สึกสนุกสนานและไม่เครียด อีกทั้งยังส่งเสริมพัฒนาการด้านการสื่อสารและการเข้าสังคมในเวลาเดียวกันค่ะ

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจเรื่อง “การเล่น” ของเด็กในแต่ละช่วงวัยก่อนค่ะ

ความสำคัญของการเล่นในแต่ละช่วงวัย

 

 

การเล่นเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม อารมณ์ หรือภาษาศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่จำเป็น การเข้าใจลักษณะการเล่นตามช่วงวัยของลูกๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจ

Stage 1: Solitary Play (0-2 years old)

ขั้นแรกนี้น้องจะยังไม่เล่นเองค่ะ ยังไม่รู้จะเล่นอย่างไร แต่จะสังเกตการเล่นของคนอื่นก่อน (Onlooker Behaviour) หลังจากนั้นจึงจะเริ่มมาลองเล่นเองเป็นช่วงของ “การเล่นตามลำพัง” เด็กจะเล่นของเล่นเงียบๆคนเดียว ถึงแม้ว่าในห้องจะมีเด็กคนอื่นอยู่ด้วยกันแต่เด็กจะสนใจอยู่กับของเล่นของตัวเองคนเดียว เด็กจะสนใจสิ่งของบางอย่าง นั่งเล่นคนเดียวเป็นเวลานาน พ่อแม่บางคนอาจกลัวลูกเบื่อ อยากให้ลูกเล่นหลากหลาย พ่อแม่จึงพาลูกไปเข้าคอร์สเรียนเล่นต่างๆ เพื่อฝึกทักษะการเข้าสังคมกับเพื่อน เพื่อให้ลูกมีเพื่อน เพื่อให้ลูกสนุก ไม่เหงา ซึ่งช่วงนี้เด็กๆจะเรียนรู้จากการสังเกตและซึมซับไปทีละเล็กละน้อยผ่านพ่อแม่มากที่สุด แท้จริง พัฒนาการทางสมองของเด็กวัยนี้ เป็นไปตามธรรมชาติ ที่ยังไม่ต้องการทำความรู้จักใคร เด็กมีความคิดว่า ตนเองและแม่คือคนเดียวกัน เด็กยังไม่แยกตัวตนออกจากแม่ เด็กต้องการสงบอยู่กับตนเอง 

สิ่งสำคัญ คือ การได้มีความสัมพันธ์กับพ่อแม่ หากช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่สื่อสารกันเอง เล่นกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ หรือ กี่ภาษาก็ตาม ลูกจะเรียนรู้การเล่นและซึมซับภาษาผ่านคุณพ่อคุณแม่ในเวลาเดียวกัน ของเล่นและการดูแลจากครอบครัวเป็นการส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่ดีที่สุดในช่วงวัยนี้ หากคุณแม่กลัวลูกเหงา กลัวลูกเบื่อ อยากพัฒนาทักษะลูกในด้านต่างๆ อยากให้ลูกเก่ง อยากให้ลูกทันคนอื่น สิ่งที่ต้องทำ คือ เอาตัวลงมา “เล่นกับลูก” และสื่อสารกับลูกทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งพูดอังกฤษกับลูกน้อยในชีวิตประจําวัน เด็กๆ จะสังเกตและซึมซับทุกอย่างดีมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะสำเนียงของทุกภาษาค่ะ

Stage 2: Parallel Play (2-3 years old)

การเล่นในช่วงนี้ เป็นการเล่นแบบ “คู่ขนาน” อาจมีเด็กหลายคนอยู่ในห้องเดียวกัน นั่งเล่นด้วยกัน แต่ไม่สนใจกัน แต่ยังสนใจการเล่นของตนเอง คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องพยายามผลักดันให้เด็กไปเล่นกับเพื่อนในขณะที่ยังไม่พร้อม วัยนี้หากเด็กพร้อม อาจมีความพร้อมไม่เท่ากัน พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องกังวลและไม่จำเป็นต้องสร้างความหงุดหงิดให้กับลูกโดยไม่จำเป็น การที่พ่อแม่ทำกิจกรรมใดๆ แบบธรรมชาติเป็นกิจวัตร การใช้ภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย อังกฤษ จีน ระหว่างวัน หรือ พาลูกไปเข้าคอร์สทำกิจกรรมต่างๆ โดยมีมุมให้ลูกเล่นไปในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ทำกิจกรรมไป เด็กๆ สามารถเกิดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและอีกหลากหลายภาษาได้แบบธรรมชาติจากมุมการเล่นแบบคู่ขนานของตนเอง ถือเป็นกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการเล่นที่มีประสิทธิภาพมากค่ะ

Stage 3: Associative Play (3-4 years) – ประมาณช่วงวัยเริ่มเข้าเตรียมอนุบาล / อนุบาล

วัยนี้เด็กจะเริ่มสนใจการเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่มได้ เด็กจะสนใจที่จะเล่นของเล่นคล้ายๆ กัน ช่วยหยิบจับของส่งให้กัน เด็กจะสนใจทำกิจกรรมคล้ายๆกัน ร่วมกัน บางครั้งเป็นลักษณะของการเล่นเลียนแบบกัน เช่น เมื่อเห็นเด็กคนหนึ่งส่งเสียงหรือเต้น ก็จะส่งเสียงหรือเต้นตามด้วย ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่เด็กเริ่มเปิดตัวเองออกสู่ภายนอก เริ่มสนใจเด็กวัยใกล้กัน เป็นช่วงวัยที่เริ่มเปิดประตูเข้าสู่การเข้าสังคม เด็กวัยนี้เริ่มฝึกเรียนรู้การให้ การรับ การรอ การทำตามคำบอกอย่างง่ายด้วยความช่วยเหลือของผู้ใหญ่ เด็กแต่ละคนมีกลุ่มอารมณ์ที่ต่างกัน มาจากการดูแลจากครอบครัวที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เด็กกลุ่มที่ช้าในการปรับตัว (Slow to warm up) ผู้ใหญ่ต้องใช้การสังเกต ความเข้าใจ ให้เด็กรู้สึกปลอดภัย คลายกังวล และค่อยๆเรียนรู้ทีละเล็กทีละน้อย 

หากเด็กๆ ในวัยนี้ยังไม่เล่นกับเพื่อน อาจทำให้พ่อแม่เป็นกังวล ที่เห็นเด็กคนอื่นๆ เล่นกับเพื่อนได้ แต่มีลูกเราที่ไม่เล่นกับเพื่อน ไม่จำเป็นต้องผลักดันให้ลูกไปเล่นกับเพื่อนทั้งที่ลูกยังไม่พร้อม สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ คือ การพยายามที่จะยังคง Support ลูกตาม Stage 2 ไปก่อน ยังต้องให้เวลา และให้โอกาสกับเด็กในการค่อยๆ ปรับตัว เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยตัวเขาเอง การสื่อสารกับลูกโดยใช้ภาษาต่างๆ ที่เหมาะสมจะเป็นรากฐานสำคัญ จนเมื่อถึงเวลาที่ลูกพร้อมก็จะปรับตัวเข้าหาเพื่อนได้ตามธรรมชาติ

สำหรับน้องๆ ที่อยู่ใน Stage 1-3 คอร์สเสริมพัฒนาการที่เหมาะสมยังต้องเป็นคอร์สที่เรียนรู้ผ่านคุณพ่อคุณแม่อยู่นะคะ ยังไม่เหมาะกับการปล่อยน้องให้เรียนรู้ด้วยตนเองค่ะ (more info: Magic English for Babies)

Stage 4: Cooperative Play (5-9 years old) – วัยอนุบาล/ประถมต้น

โดยธรรมชาติเด็กๆ จะเริ่มสนใจการเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่ม เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 2-5 คน และ เด็กๆ จะสามารถสนใจการเล่นกับเพื่อนๆ ได้โดยไม่ต้องมีคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น Cooperative Play จึงบ่งบอกถึงลักษณะการเล่นที่ต้องเล่นด้วยกันมากขึ้น ลูกๆ ในวัยนี้นั่งเล่นด้วยกันได้ อาจจะเล่นอยู่ในเกมเดียวกัน หรือ คนละเกมเดียวกันก็ได้ เช่น คนหนึ่งเล่นขายของ อีกคนก็วิ่งไปหยิบทรายมาทำขนม หรือ อาจจะเล่นขายของด้วยกันก็ได้ ลูกๆจะเล่นด้วยกันแต่จะมีจินตนาการของตัวเอง

การพาลูกไปเข้าคอร์สต่างๆ ควรเป็นกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการเล่นที่หลากหลาย ถึงแม้เด็กๆ จะทำกิจกรรมเดียวกันอยู่ แต่เด็กๆ จะมีจินตนาการและเรียนรู้ในลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในกิจกรรมหนึ่งๆ ที่เด็กๆ กำลังทำร่วมกันอยู่ บางครั้งลูกเราอาจจะนั่งเล่นของบางอย่างแล้วคุยกับเพื่อน ในขณะที่เด็กคนอื่นอาจจะวิ่งไปวิ่งมา เต้นกระโดด หัวเราะ หรือ พยายามพูดคุยกับผู้ใหญ่รอบตัว ขึ้นอยู่กับจินตนาการที่เด็กๆ กำลังมีในขณะที่กำลังเกิดการเรียนรู้ใดๆ อยู่ คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตอย่างเข้าใจว่าเมื่อลูกไปโรงเรียน หรือ เข้าคอร์สทำกิจกรรมอยู่ ลูกคนอื่นและลูกเราไม่จำเป็นต้องตอบสนองกับคุณครูในลักษณะเดียวกัน บางครั้งอาจดูเหมือนลูกเราไม่สนใจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาหยุดการเรียนรู้เลยแม้แต่วินาทีเดียว

วิธีช่วยให้ลูกพัฒนาภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาต่างประเทศใดๆ ณ วัยนี้ จึงเป็นวัยที่น้องๆ จะเรียนรู้ผ่านการเล่นเป็นสำคัญ การเรียนผ่านการเล่นคือกลไกแห่งการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือที่จัดสิ่งแวดล้อมให้เกิดการเรียนรู้แบบส่วนร่วม และ เรียนรู้ในแบบของตัวเอง อย่างดีที่สุด การจัดการเล่นให้เหมาะสม โดยเด็กๆ ก็จะมีการตอบสนองโดยธรรมชาติ มีทั้งที่น่ารัก และ ไม่น่ารัก ก็จะเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะใช้พื้นที่การเล่นนี้สอนให้เด็กๆ รู้จักการแบ่งปัน การช่วยเหลือ อะไรที่เราอยากปลูกฝังสามารถใส่ได้ในช่วงเวลานี้ และอะไรที่ไม่ดีก็ต้องทำให้เด็กๆ รู้ว่ามันไม่โอเค ดังนั้น พื้นที่การเล่น คือ พื้นที่ให้การปรับรูปร่างพฤติกรรมของเด็กน้อยให้เข้าที่เข้าทาง 

ขอบคุณข้อมูลจาก kidactiveplay.com

ความรักของพ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกมีความสุข มีพัฒนาการที่ดี ต้องตั้งอยู่บนความรู้ที่ถูกต้อง การมีความรู้เป็นเรื่องสำคัญ แต่การฝึก”ทักษะ” การเลี้ยงลูก เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน การเลี้ยงลูกเป็นศาสตร์และศิลป์ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว แต่จำเป็นต้องตั้งอยู่บน “หลักการ” เมื่อเราเข้าใจเด็ก ไม่ว่าเลี้ยงอย่างไรก็ไม่มีปัญหาให้ต้องแก้ หน้าที่เราพ่อแม่ คือ สร้างเด็กให้เต็มศักยภาพตามสิ่งที่เขาเป็น มิใช่การสร้างเด็กให้เป็นในสิ่งที่เราต้องการให้เป็น

 

เล่นยังไงให้ลูกเก่งอังกฤษ! (Good English Playground)

 

 

ครูบิ๊ก-พงษ์ระพี เตชพาหพงษ์ ผู้เขียนหนังสือ เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ ได้แนะให้แต่ละบ้านหาจุดลงตัวกับการใส่ภาษาต่างประเทศในบ้านของตัวเอง เช่น หากเราต้องการให้บ้านเราใช้ภาษาอังกฤษ และ ไทย เราก็ต้องหาว่าจะใช้ระบบไหนถึงจะลงตัวสุด เช่น พ่อ speak English แม่พูดไทย หรือ ทั้งพ่อและแม่พูดทั้งสองภาษา ก็เลือกที่สบายใจ ก็จัดลำดับให้ได้

แต่หากบ้านไหนที่พ่อหรือแม่อาจรู้สึกไม่มั่นใจเท่าที่ควร ก็สามารถจัดการเสริมพัฒนาการเรียนรู้ได้ดังนี้

1. จัดเวลาสำหรับเป็น English Playground

จัดเวลาสำหรับเป็น English Playground เช่น สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 1 ชั่วโมง ที่การเล่นต่างๆ การจัดกิจกรรมการเล่นเป็นภาษาอังกฤษ โดยสามารถใช้สื่อการเล่นที่เหมาะกับอายุของลูกมาประกอบกับการเล่น การใช้ภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่เอง หรือ หาครู หรือ หาพี่เลี้ยง ที่มีสำเนียงที่เหมาะสมและเข้าใจการจัด Playground ที่เหมาะสม จะทำให้น้องๆ ได้ซึมซับกับคลื่นเสียง สำเนียง อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้น การปั้นลูกให้มีสำเนียงเป๊ะ ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีนี้ การจัดกิจกรรม English Playground เช่นนี้ ควรมีความถี่ที่สม่ำเสมอ และ จัดแบบการเล่นที่เข้าใจธรรมชาติการเรียนรู้ผ่านการเล่นของเด็กๆ ในแต่ละวัย

การจัด English Playground สามารถจัดได้ทั้งแบบส่วนตัว สำหรับบ้านที่ทำ Homeschool มีลูกคนเดียว หรือ จัดได้ทั้งแบบเป็นกลุ่มเล็ก และ กลุ่มขนาดกลาง (2-8 คน) สำหรับ กลุ่มที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จะต้องมีการเพิ่มความถี่ให้สูงขึ้น 

2. Experienced English Speakers 

Experienced English Speakers ยังจำเป็นสำหรับการสร้างสิ่งแวดล้อมในสนามเด็กเล่นแบบ English Playground ของเรา ซึ่งการที่เด็กๆ มีปฏิสัมพันธ์กับคุณครูเจ้าของภาษา 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็ถือว่าเป็นการกระตุ้นพัฒนาการที่ทำให้เกิดเส้นพัฒนาทางภาษาได้อย่างดี การสร้างปฏิสัมพันธ์ผ่านการเล่นจะเป็นกระบวนการนำไปสู่การสร้างความเข้าใจในมิติต่างๆ อย่างละมุนที่สุด การใส่ความมั่นใจ ผ่านความคุ้นเคย 

สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังในการออกเสียง (Pronunciation) ที่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็น British หรือ American หรือ Australian accent ก็ไม่มีปัญหา แต่ที่สำคัญคือออกเสียง Phonics ให้ถูกต้องเป็นพอ เพราะทักษะแรกของการเรียนรู้ของลูกน้อยคือทักษะการฟัง (Listening skill)

 

คอร์ส English Playground มีประโยชน์อย่างไร

 

คอร์ส English Playground จาก EFL Thailand ที่จัดอย่างเหมาะสมสำหรับเด็กวัย 5-9 ปี ช่วยเสริมสร้างให้ระบบประสาทและสมองที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของเด็กๆ สามารถเชื่อมโยงกับจินตนาการและบุคลิกภาพของน้องๆ ได้สมวัยผ่านการเล่นเป็นภาษาอังกฤษอย่างมีคุณภาพ คอร์สของเราจะช่วยให้

ซึ่งใน คอร์ส English Playground จาก EFL Thailand เราจะมีเนื้อหาความรู้ที่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้ ไม่ว่าจะเป็น

คำกิริยาที่ต้องใช้ในการเล่นร่วมกัน

– คำที่บอกอารมณ์ความรู้สึก

– คำศัพท์สามารถหวือหวาได้

– มีคำตลกๆ ที่สามารถใช้ได้ให้เกิดความสนุกสนาน

การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของลูกๆ สามารถทำได้ผ่านการเล่นที่เหมาะสมกับช่วงวัยและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ คอร์สคอร์สปูพื้นฐานภาษาอังกฤษอย่างคอร์ส English Playground จาก EFL Thailand เป็นตัวช่วยที่ดีในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเด็กๆ โดยการเรียนรู้ผ่านการเล่นที่สนุกสนานและมีประสิทธิภาพค่ะ

 

 

EFL Learning Centre เราคือสถาบันภาษาแรกในเอเชียที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการสอนภาษาอังกฤษด้วยมาตรฐานโลก ISO 9001 หลักสูตรอบรมครูภาษาอังกฤษจากทุกทิศทั่วโลก (SEE TEFL) ยังได้รับการรับรอง Training Qualifications UK และ เราคือสถาบันภาษาแห่งแรกที่ครอบคลุมการพัฒนาภาษาอังกฤษตั้งแต่ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ – การจัดการศึกษาภาษาอังกฤษ ”อาวุโส OK” เรียกว่าเป็น English For Lifelong Learners มาตรฐานสากลแห่งแรกในประเทศไทย ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษผ่านคอร์สภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพและเห็นผล สามารถติดต่อเรามาได้เลยนะคะ

 

 

เอกสารอ้างอิง

https://www.sciencemag.org/news/2013/08/babies-learn-recognize-words-womb

https://www.medicinenet.com/

https://aboutmom.co/interview/bilingual-mom/11907/ 

https://www.kidactiveplay.com/content.php?types=learn&cid=75  

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Skip to content