จุดประสงค์ของการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ นั่นคือการวัดทักษะการใช้ภาษาตามมาตรฐานสากล และเพื่อให้ได้ใบรับรองระดับภาษาในการสมัครงาน หรือการเรียนต่อในต่างประเทศ ซึ่งการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษในไทยนั้นมีอยู่หลากหลายแบบ แต่แบบที่เป็นสากล และเป็นที่นิยมคือ IELTS และ TOEFL บทความนี้จะมาเพิ่มความเข้าใจ ในการสอบ IELTS กับ TOEFL ต่างกันยังไง สอบอันไหนดีกว่ากัน
ข้อมูลพื้นฐานของ IELTS และ TOEFL
การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ IELTS หรือ International English Language Testing System เป็นการสอบวัดระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษตามมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับจากองค์กรมากกว่า 11,000 แห่ง ทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วโลก โดยการสอบสามารถเลือกวิธีการสอบได้ทั้งรูปแบบกระดาษ และแบบคอมพิวเตอร์
การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ Test of English as a Foreign Language เป็นการสอบวัดระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ อย่างประเทศไทย เป็นต้น โดยเน้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะศึกษาต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา
โครงสร้างในการสอบของ IELTS และ TOEFL
ทั้ง IELTS และ TOEFL ต่างมีโครงสร้างในการสอบเหมือนกัน ซึ่งก็คือเป็นการวัด 4 ทักษะพื้นฐาน ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน สิ่งที่แตกต่างกันจะเป็นในส่วนของรายละเอียดภายในการสอบ 4 ทักษะเหล่านั้นดังนี้
1. ทักษะการฟัง (Listening)
IELTS จะเป็นการทดสอบหลากหลายรูปแบบ ทั้งเติมคำ หรือใส่ข้อมูล โดยที่เราจะมีโอกาสเห็นโจทย์ก่อน ทำให้เราสามารถเตรียมตัวได้ว่าจะต้องฟังอะไร และหาคำตอบแบบไหน โดยการเตรียมสอบของ IELTS นั้นจะเป็นลักษณะ การเตรียมคลังคำศัพท์ และฝึกตีความเพื่อตอบคำถามจากการฟัง
TOEFL จะเป็นการฟังบทสนทนา หรือการบรรยาย และตอบคำถามในลักษณะของ Multiple Choice เน้นการจับใจความ ซึ่งเราจะไม่เห็นคำถาม หรือข้อสอบล่วงหน้าก่อนเริ่มการฟัง ทำให้การสอบ TOEFL จะต้องอาศัยการฝึกฝนบ่อยๆ เพื่อให้ชินกับการฟัง และการสรุปจับใจความ
2. ทักษะการพูด (Speaking)
IELTS จะเป็นการพูดคุยกับกรรมการ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 – 14 นาที ในการพูดคุยตั้งแต่การแนะนำตัว และตอบคำถามต่างๆ ที่ทางกรรมการกำหนดไว้ โดยมีการอภิปราย และถกเถียงข้อมูลในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งร่วมด้วย
TOEFL จะเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับบทสนทนา หรือคำบรรยาย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที มีคำถามทั้งหมด 6 ข้อ หลักๆ จะเป็นการสอบถามความคิดเห็น จากหัวข้อที่กำหนดให้ และสรุปเนื้อหาที่ได้ฟังบรรยายในลักษณะการอธิบายเป็นคำตอบในระยะเวลาข้อละ 45 – 60 วินาที
3. ทักษะการอ่าน (Reading)
IELTS จะทดสอบการอ่าน และการทำความเข้าใจ โดยนำบทความแนววิชาการ หรือความรู้ข่าวสารต่างๆ มาให้อ่าน จำนวน 3 บทความ ส่วนวิธีการตอบมีหลากหลายรูปแบบ เช่น การเติมคำในช่องว่าง, Multiple Choice หรือการเลือกว่าข้อความที่กล่าวมานั้น ถูก หรือ ผิด โดยอิงข้อมูลมาจากในบทความ เป็นต้นโดยมีระยะเวลาในการตอบคำถามพวกนี้ 20 นาที
TOEFL จะทดสอบบทความวิชาการ ซึ่งเป็นลักษณะการนำข้อมูลจากหนังสือเรียน หรือหนังสือวิชาการ ที่มีความยาว 3 – 5 ย่อหน้า ด้วยการตอบคำถามในรูปแบบ Multiple Choice ภายในระยะเวลา 20 นาที
4. ทักษะการเขียน (Writing)
IELTS สำหรับพาร์ทแรกจะเป็นการเขียนในเชิงการอธิบายข้อมูลต่างๆ เช่น กราฟ หรือตาราง โดยพาร์ทหลังจะเป็นการแสดงความคิดเห็นในหัวข้อที่ทางกรรมการกำหนดมาให้
TOEFL สำหรับพาร์ทแรก จะเป็นการเขียนเรียงความความยาว 300 – 350 คำ หรือประมาณ 5 ย่อหน้า และพาร์ทหลังจะเป็นการเขียนบรรยายในหัวข้อที่กำหนด ซึ่งจะมาจากการอ่านบทความ หรือการฟังบรรยายแล้วเขียนเรียงความตอบ ความยาวอยู่ที่ 150 – 225 คำ
ระบบในการคิดคะแนนของ IELTS และ TOEFL
สำหรับการสอบ IELTS จะแบ่งคะแนนออกเป็น 9 ระดับ สำหรับ 4 ทักษะที่ว่ามาในหัวข้อที่แล้ว โดยการนำคะแนนของแต่ละพาร์ท มาหารกันเพื่อให้ได้คะแนนภาพรวม สำหรับการสมัครงาน หรือการเรียนต่อ ที่จะต้องใช้คะแนน IELTS จะมีการกำหนดระดับคะแนนไว้ เช่น การจะเรียนต่อสถาบัน A จะต้องมีระดับคะแนนที่ 6 ขึ้นไป เป็นต้น
ส่วนการสอบ TOEFL จะทำการแบ่งคะแนนออกเป็น 4 พาร์ท หรือ 4 ทักษะ ทักษะละ 30 คะแนน และนำคะแนนรวมของทุกทักษะมาใช้เป็นคะแนนภาพรวม ดังนั้นคะแนนเต็มจะอยู่ที่ 120 เมื่อเปรียบเทียบคะแนนกับของทาง IELTS จะเปรียบได้ดังนี้
ทักษะภาษาอังกฤษ CEFR |
คะแนนสอบ IELTS |
คะแนนสอบ TOEFL |
B1 ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในหัวข้อที่ตัวเองสนใจได้ในระดับทั่วไป |
4.0 |
41 |
B2 เข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนมากขึ้น และสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว |
5.5 |
65 |
C1 เข้าใจ และสามารถจับใจความเนื้อหาที่ยาวขึ้นมาได้ โดยสามารถวิเคราะห์ และตีความได้อย่างคล่องแคล่ว |
6.5 |
79 |
C2 สามารถเข้าใจโครงสร้างไวยกรณ์ที่ซับซ้อน สื่อสารได้คล่องแคล่วใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา |
7.5 |
96 |
การเตรียมตัวสอบ
ทั้ง IELTS และ TOEFL ต่างมีโครงสร้างในการสอบเหมือนกัน ซึ่งนั่นก็คือการสอบ 4 ทักษะพื้นฐาน ดังนั้นการเตรียมตัวสอบของทั้งสองอย่าง จึงต้องฝึกทักษะพื้นฐาน และการอ่านข้อมูลข่าวสารอื่นๆ เสริมเพิ่มเติม เพื่อให้มีข้อมูลไปใช้ในการพูดคุย และอธิบายในการสอบ ในการฝึกฝนทักษะเหล่านั้นสามารถเพิ่มพูนได้ด้วย เว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษ ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมก่อนการเจอสนามสอบจริง ให้เรามีความมั่นใจ และพร้อมที่จะทำการสอบทั้ง IELTS และ TOEFL
สรุปแล้ว การสอบ IELTS หรือ TOEFL มีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ที่แตกต่างหลักๆ คือประเทศที่ต้องการจะนำคะแนนนี้ไปใช้ หากต้องการเดินทางไปเรียนต่อ หรือทำงานในประเทศโซนยุโรป แนะนำให้สอบ IELTS แต่หากต้องการไปโซนอเมริกา แนะนำให้สอบ TOEFL แต่ก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบต่างๆ เพื่อวัดระดับภาษา และนำคะแนนตรงนี้ไปต่อยอดในหน้าที่การงาน หรือเรียนต่อได้อย่างเต็มที่
ท้ายสุดนี้ อย่าลืมลองแวะดูคอร์ส IELTS จากเรา มีคอร์สสอนภาษาอังกฤษให้เลือกหลากหลายสำหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย ทุกการเตรียมสอบวัดระดับ หรือศึกษาต่อ หากยังไม่มั่นใจว่าคุณควรจะเลือกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบไหนดี เพื่อให้เหมาะกับตัวคุณเองมากที่สุด สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางต่างๆ เพื่อปรึกษาวางแผนการเรียนได้ตลอดเวลา เรายินดีพร้อมให้บริการคุณ