การสร้างครอบครัวสองภาษาเป็นความฝันของพ่อแม่หลายคนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกฝังภาษาอังกฤษให้กับลูกน้อยตั้งแต่วัยเยาว์ วันนี้เราขอนำเสนอเทคนิคและแนวทางในการเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษให้กับลูก โดยเน้นการเรียนรู้สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์ พร้อมแนะนำคอร์สอบรมสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการสร้างครอบครัวสองภาษาด้วยคอร์ส Born-To-Be จาก EFL Thailand โดยเน้นการออกเสียงที่ถูกต้องและการเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของลูกตั้งแต่ช่วงปฐมวัย
ปัจจัยที่ทำให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ!
การเรียนรู้ของลูกน้อยเริ่มได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่ รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลกล่าวว่า การที่คนเราจะมีสมองดีหรือมีความเฉลียวฉลาดมีปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องหลายประการ ปัจจัยที่สำคัญมี 3 ประการ คือ
- กรรมพันธุ์
- อาหารการกินของแม่ขณะตั้งครรภ์และของลูกภายหลังคลอด
- สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็กทั้งขณะที่อยู่ในท้องและภายหลังคลอด
คุณหมอวิทยายังกล่าวอีกว่า เนื้อสมองและเส้นใยประสาทที่เชื่อมโยงกับสมองและเชื่อมโยงกันเองเกิดเป็นข่ายใยเส้นประสาทอย่างมากและรวดเร็วเพื่อทำหน้าที่ต่างๆ ตั้งแต่ลูกน้อยมีอายุประมาณ 8 สัปดาห์ เรื่อยไปจนถึงคลอดออกมาแล้วมีอายุ 2 ขวบ หลังจากนั้นพัฒนาการของสมองก็จะลดลงทีละน้อย ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง ช่วงเวลาทองที่ควรจะกระตุ้นพัฒนาลูกน้อยจึงควรเป็นช่วงเวลาดังกล่าว ดังนั้นจึงมีหลายคนกล่าวว่าหากเรารอให้ลูกเราจะเข้าโรงเรียนตามเกณฑ์คือ 5 ขวบ ก็อาจสายเสียแล้ว เพราะเราอาจไม่ได้ทำอะไรที่ช่วยการเรียนรู้ที่เหมาะสมในช่วง 8 สัปดาห์ – 5 ขวบนี้เลย
อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
การเริ่มต้นตั้งแต่ในครรภ์ ก็คงหนีไม่พ้นต้องเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่สามารถสร้างปัจจัยและโอกาสให้ลูกน้อย ตลอดจนสอนลูกพูดภาษาอังกฤษได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
- การปรับอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ
คุณหมอวิทยากล่าวว่า จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าคุณแม่ที่อารมณ์ดีอยู่เสมอจะทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอนดอร์ฟิน (endorphin) ออกมาผ่านไปทางสายสะดือไปยังลูกทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง (IQ) และอารมณ์ (EQ) ในทางตรงกันข้ามคุณแม่ที่มีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความเครียดที่เรียกว่า อะดรีนาลิน (adrenalin) ออกมาผ่านไปยังลูก ผลดังกล่าวจะทำให้ลูกคลอดออกมาเด็กงอแง เลี้ยงยาก พัฒนาการช้า ฟังดูแล้วจะว่าทำได้ง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะบางคนไม่ใช่คนที่จะปล่อยวางอะไรได้ง่ายๆ หรือเป็นคนเครียดตลอดเวลา ถ้าต้องมาปรับอารมณ์ให้ดี อาจจะเครียดจากการปรับอารมณ์หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
- พูดคุยกับลูก
คุณหมอวิทยากล่าวว่า การพูดคุยกับลูกในครรภ์บ่อยๆจะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีและเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด คุณแม่ควรพูดกับลูกบ่อยๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ประโยคซ้ำๆ เพื่อให้ลูกคุ้นเคย อย่าไปเล่าเรื่องทุกข์ใจ เช่น เป็นหนี้เขาอยู่ หรือส่งแชร์ไม่ทัน ให้ลูกฟังนะ เพราะเดี๋ยวลูกจะเครียดเสียตั้งแต่อยู่ในท้อง พูดภาษาอังกฤษกับลูกดีๆ สำเนียงดี พูดเพราะๆน่ารักๆในช่วงนี้คือดีมาก มีผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ไว้ใน The New York Times ว่า “ Language Lessons start in the womb”
การพูดคุยกับลูกนี้สามารถเริ่มพูดเป็นภาษาอังกฤษไปได้ตั้งแต่ตอนลูกยังอยู่ในท้องได้เลย และยังเป็นการซ้อมการใช้ภาษาอังกฤษของพ่อกับแม่ด้วย การที่คุณพ่อคุณแม่ฝึกฝนด้วยตนเอง หรือไป Take Course สอนพ่อแม่พูดภาษาอังกฤษกับลูก และฝึกพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่ตอนนี้ก็ถือเป็นการที่ทำให้การฝึกฝนของคุณพ่อคุณแม่ส่งต่อไปถึงลูกได้ แล้วยังเป็นการเตรียมพร้อมภาษาอังกฤษก่อนที่จะพบหน้าลูกน้อยเมื่อคลอดเขาอีกด้วย
- หมวดคำศัพท์พื้นฐานที่ควรออกเสียงให้ถูกต้อง
หมวดคำศัพท์เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัว จำง่าย และได้ใช้บ่อยๆ ดังนี้
– ตัวเลข (numbers) 1-100
– สี (colours) black, white, yellow, purple, blue, orange, red
– คำคุณศัพท์ (adjectives) big, small, tall, short, happy, sad
– ร่างกาย (the body) head, eyes, mouth, arm, hand, leg, foot
– ของเล่น / เสื้อผ้า / สัตว์ชนิดต่างๆ / อาหาร
- หมวดคำถามในชีวิตประจำวัน
- หมวดโครงสร้างทางภาษาที่เหมาะสม
- หมวดเพลงและนิทาน
- หมวด Play Time
- หมวด My Family Culture
สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่คุณพ่อคุณแม่ระมัดระวังในการออกเสียง (Pronunciation) ที่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็น British หรือ American หรือ Australian accent ก็ไม่มีปัญหา แต่ที่สำคัญคือออกเสียง Phonics ให้ถูกต้องเป็นพอ เพราะทักษะแรกของการเรียนรู้ของลูกน้อยคือทักษะการฟัง (Listening skill) คอร์สอบรมเฉพาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ หรือ Nanny ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องตามหลักการจะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีและเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด
สำหรับพ่อแม่ที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษให้กับลูก และกำลังสงสัยว่าหากอยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ เรียนที่ไหนดี? คอร์ส Born-To-Be จาก EFL Thailand เป็นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับครอบครัวที่อยากสร้างครอบครัวสองภาษา (Bilingual) โดยเปิดโอกาสให้ทั้งพ่อแม่และพี่เลี้ยงได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน ด้วยค่าใช้จ่ายเพียงหนึ่งท่าน แต่สามารถเรียนได้ถึงสองท่าน นอกจากนี้ ยังให้สิทธิพิเศษสำหรับเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ (อายุครรภ์ 8 สัปดาห์) จนถึงอายุ 4 ขวบ โดยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี!
ประโยชน์ที่ได้รับจากคอร์ส Born-To-Be
- เริ่มเสริมพัฒนาการทางภาษาได้ตั้งแต่คุณแม่อายุครรภ์ 8 สัปดาห์ – น้องอายุ 4 ขวบ
- คอร์สอบรมสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ตั้งใจจะสร้างครอบครัวสองภาษา (Bilingual Family)
- ฝึกการออกเสียงได้สำเนียงและการออกเสียง Phonics ที่ถูกต้อง
- เหมาะกับการช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดี
- เตรียมความพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด
- ช่วยพัฒนาทักษะแรกของการเรียนรู้ของลูกน้อย
- เริ่มต้นใหม่ทุกหมวดตามระดับภาษาของคุณพ่อคุณแม่
– หมวดคำถามในชีวิตประจำวันของลูกน้อย
– หมวดโครงสร้างทางภาษาที่เหมาะสม
– หมวดเพลงและนิทาน
– หมวด Playtime
– หมวด My Family Culture
– หมวดสร้างครอบครัว 2 ภาษา
การสร้างครอบครัวสองภาษาไม่ใช่เรื่องยากเกินความพยายาม เป็นการสอนภาษาอังกฤษเด็กน้อยตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ คอร์ส Born-To-Be จาก EFL Thailand เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากสร้างครอบครัวสองภาษา โดยเน้นการฝึกออกเสียงที่ถูกต้องและการเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐาน ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์จนถึงเด็กอายุ 4 ขวบ และเปิดโอกาสให้ทั้งพ่อแม่และพี่เลี้ยงได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน คอร์ส Born-To-Be จะช่วยให้พ่อแม่สามารถวางรากฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับลูกน้อยได้อย่างเห็นผล ติดต่อเพื่อพูดคุยกับเราได้เลยวันนี้!
เอกสารและรูปภาพอ้างอิง
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=425
Babies | First Words | FULL EPISODE | Netflix
https://www.sciencemag.org/news/2013/08/babies-learn-recognize-words-womb
https://www.medicinenet.com/script/main/art.asp?articlekey=113396
https://unsplash.com/photos/two-people-sitting-at-a-table-with-a-notebook-and-pen-x7_yw8AdfzY