"ธุรกิจกวดวิชา" เดินหน้าต่ออย่างไร ในยุคทองของการเรียนออนไลน์

 

ไม่ใช่แค่เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้การเรียนเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ก็เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยน Landscape ของการเรียนการสอนและวิถีชีวิตด้านอื่นๆ ของผู้คนทั่วโลก บังคับให้ผู้เรียนต้องสร้างระยะห่างทางสังคมและเรียนออนไลน์แทน ซึ่งผลที่ตามมาคือ ทำให้ผู้เรียนบางส่วนที่เคยชินกับการเรียนออนไลน์ เกิดมุมมองต่อการเรียนออนไลน์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม เห็นความสำคัญของการเรียน Onsite ลดลง เนื่องจากความสามารถที่จะค้นหาสิ่งที่อยากรู้ได้ด้วยตัวเองถูกเพิ่มพูนด้วยความสะดวกรวดเร็วของอินเทอร์เน็ต คำถามที่น่าสนใจคือ ท่ามกลาง Challenges เหล่านี้ ธุรกิจกวดวิชายังจำเป็นแค่ไหน แล้วธุรกิจกวดวิชาควรจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป?

ธุรกิจกวดวิชา โรงเรียนกวดวิชา ปรับตัวช่วงโควิด

สถานการณ์ของ “ธุรกิจกวดวิชา” ในปี 2022

ย้อนขอกลับไปเมื่อ 10-20 ปีก่อน จะเป็นยุคที่ธุรกิจกวดวิชาบูมมากที่สุด มีการขยายสาขาไปทั่วทุกภูมิภาค ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล แต่ขยายไปตามหัวเมืองใหญ่ๆ ธุรกิจสร้างแบรนด์ใหม่กันออกมาในท้องตลาดมากมาย เด็กนักเรียนเรียกได้ว่าแทบจะเดินเข้าออกโรงเรียนกวดวิชากันเป็นว่าเล่น เรียกได้ว่าแทบจะเป็นยุคทองเลยก็ว่าได้ ทั้งหมดก็เพื่อรองรับดีมานด์ (Demand) ของเด็กมัธยมที่นิยมเรียนกวดวิชาเอามากๆ ในยุคนั้น 

 

ต่อมาก็อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า เทคโนโลยีที่เข้ามา Disrupt ดีมานด์ตรงนี้ รวมทั้งความนิยมในการเรียนออนไลน์ที่มากขึ้น การเรียนกวดวิชาจึงได้รับความนิยมลดลงจากเดิม แต่ถ้าถามว่าการกวดวิชายังจำเป็นหรือไม่นั้น คำตอบคือยังจำเป็น จะเห็นได้จากหลังมีการยกเลิกมาตรการเรียนออนไลน์ นักเรียนบางส่วนก็ยังกลับมาเรียนที่กวดวิชา และหากยิ่งการศึกษามีแนวโน้มที่จะแข่งขันสูง ธุรกิจกวดวิชาก็ยังมีความจำเป็นอยู่เรื่อยๆ ไม่เพียงแต่เพื่อเรียนแล้วนำไปสอบ แต่ยังจำเป็นในแง่ของคุณภาพของการเรียนรู้ที่ดี และการเข้าสังคม 

กลยุทธ์การดำเนิน “ธุรกิจกวดวิชา” ให้เติบโต

หลังจากที่ทำความเข้าใจภาพรวมกว้างๆ ของธุรกิจกวดวิชาในปัจจุบันกันไปแล้ว เรามาดูกันว่าสำหรับใครที่สนใจธุรกิจกวดวิชา จะมีกลยุทธ์อะไรที่สามารถนำมาปรับใช้ได้บ้าง เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

1. ออนไลน์ยังต้องเป็นทางเลือก

 

วิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้ ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบวงกว้างเลยก็ว่าได้ว่า ระบบออนไลน์เท่านั้นที่จะทำให้ทุกธุรกิจอยู่รอด โดยเฉพาะธุรกิจกวดวิชาที่จริงๆ แล้วควรจะให้ความสำคัญกับการเรียนออนไลน์ก่อนหน้าวิกฤตจะเกิดเสียอีก ควรมองการเรียนออนไลน์ในฐานะทางเลือกของผู้เรียน ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเป็นมาตรการ การจัดการเรียนออนไลน์เป็นทางเลือกจะเพิ่มพูนการเข้าถึงการเรียนของนักเรียนหลายกลุ่มมากกว่าเดิม ดังนั้น นอกจากการเรียนออนไซต์ (Onsite) ที่มีคุณภาพ โรงเรียนกวดวิชาควรมุ่งสร้างคอร์สเรียนออนไลน์ที่มีคุณภาพด้วยเช่นกัน

2. ทดลองเรียนฟรี

 

ไม่มีการตลาดไหนที่น่าเชื่อเท่ากับการได้รับประสบการณ์จริง หากสามารถทำได้โรงเรียนกวดวิชาควรจัดให้นักเรียนสามารถทดลองเรียนได้ฟรีหนึ่งครั้งในแต่ละคอร์สเรียน ซึ่งสามารถนำไปสู่การตัดสินใจซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ ข้อดีของการทดลองเรียนฟรีคือประสบการณ์จะเป็นตัวดึงดูดให้นักเรียนอยากจะลงทะเบียนเรียนด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องโน้มน้าวใจ ให้เซลส์คอยแต่จะขายคอร์สให้เกิดความลำบากใจ 

3. ราคาจับต้องได้ มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย

 

แม้ว่าการเรียนกวดวิชาจะเป็นธุรกิจที่ผู้เรียนและผู้ปกครองพร้อมที่จะลงทุน แต่ในยุคนี้การตั้งเรทราคาที่จับต้องได้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ได้หมายความว่าต้องตั้งราคาถูก แต่จะต้องมีความสมเหตุสมผล และเหมาะสมกับผลลัพธ์ที่จะเกิดกับผู้เรียน นอกจากนี้ควรจะจัดโปรโมชั่นในโอกาสต่างๆ เช่น ช่วงต้อนรับเปิดเทอม ช่วงต้อนรับปิดเทอม ลดราคาคอร์สเก็งข้อสอบก่อนลงสนามสอบใหญ่ ฯลฯ 

4. สร้างคอร์สเรียนให้เข้ากับความต้องการของผู้เรียน

 

เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจตลาด ผู้เรียนผู้บริโภคคือใครมีความต้องการอะไร แล้วจัดคอร์สเรียนให้เหมาะสม สามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียนได้ นอกจากนี้ เมื่อลงทะเบียนเรียนแล้วไม่ควรมีข้อจำกัดหรือพิธีรีตองที่ยุ่งยากที่ขัดขวางก็ได้เข้าเรียนของนักเรียน หากเป็นเทปอาจเรียนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง นักเรียนจะได้สามารถเรียนได้ตามจังหวะที่เหมาะสมกับตัวเอง เรียนจนกว่าจะซึมซับเข้าใจ สร้างความรู้สึกว่าคุ้มค่า น่าเรียนมากกว่า คอร์สเรียนที่มีข้อจำกัดมากมาย

5. สร้างมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ

 

เครดิต หน้าตา มาตรฐานยังเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะในสายตาของผู้ปกครองที่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเรียน ก็ย่อมจะต้องเลือกสรรโรงเรียนกวดวิชาที่ได้มาตรฐานก่อนเป็นปัจจัยแรกๆ โรงเรียนกวดวิชาที่ดีไม่ใช่แค่มีครูที่สอนเก่ง นักเรียนรักอย่างเดียว แต่ควรจะมีมาตรฐานการเรียนการสอนที่ผ่านการรับรอง นอกจากนี้ การโปรโมทโดยแสดงให้เห็นถึงภูมิความรู้ของผู้สอนก็มีส่วนสำคัญ สามารถใช้สร้างความเชื่อมั่นจนนำไปสู่การตัดสินใจซื้อคอร์สเรียนออนไลน์

สรุป

นอกจากกลยุทธ์ที่ได้กล่าวไปข้างต้น ยังมีเทคนิคอีกมากมายที่จะช่วยให้ธุรกิจกวดวิชาดำเนินไปอย่างลื่นไหล มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นได้ แม้อยู่ท่ามกลางการแข่งขันและปัจจัย Disrupt หลายอย่าง ขอให้มุ่งเน้นที่ผู้เรียนเป็นหลัก (Customer-centric) มุ่งเน้นการให้คำแนะนำและแนวทางการพัฒนาความรู้ของนักเรียน ประสบการณ์ที่น่าประทับใจจะเป็นถูกบอกต่อและเป็นตัวต่อยอดความสำเร็จให้นั่นเอง


สนใจทำธุรกิจกวดวิชาภาษาอังกฤษ

ติดต่อ

admin@efl.ac.th

053-242945

089-9566889


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
Skip to content