สำหรับหลายๆ คนที่กำลังวางแผนศึกษาต่อ หรือวางแผนไปทำงานในต่างประเทศ แน่นอนว่าต้องผ่านการสมัครสอบวัดระดับทางภาษา เพื่อนำผลการสอบไปประกอบการยื่นเอกสารขอวีซ่า ซึ่งเราอาจจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดีกับการทดสอบ IELTS หรือ TOELF แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีการทดสอบวัดระดับทางภาษาอีกประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และสามารถนำผลการสอบไปประกอบการยื่นเอกสารได้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือการสอบ PTE นั่นเอง
การสอบ PTE คืออะไร
PTE ย่อมาจาก ‘Pearson Test of English’ เป็นการสอบวัดระดับทางภาษาอังกฤษอีกหนึ่งตัว สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อต่างประเทศ หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก โดยการพัฒนาขึ้นของ University of London ภายใต้การอนุมัติและการรับรองจาก GMAC (Graduate Management Admission Council) ทำให้มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับจากสถาบันการศึกษามากกว่า 3000 แห่ง สามารถยื่นขอวีซ่าครอบคลุมทั้งประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร และเนื่องมาจากความสะดวกและความรวดเร็วในการแจ้งผลสอบ จึงทำให้ การสอบ PTE ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
การสอบ PTE มีกี่ประเภท
โดยการสอบ PTE จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน คือ
- PTE Academic ที่เป็นการสอบวัดผลภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีผู้คุมสอบ ผู้เข้าสอบจะต้องมีอายุอย่างน้อย 16 ปีขึ้นไป ซึ่งจะแบบทดสอบจะเน้นไปในเชิงวิชาการ โดยใช้เวลาในการสอบ 2 ชั่วโมง แบ่งออกเป็น
- PTE Academic Exam: ที่สอบประเมินทักษะด้านการพูด ฟัง อ่าน และเขียน ภายในเวลา 2 ชั่วโมง ผลทดสอบจะใช้เพื่อการยื่นวีซ่าเพื่อการศึกษาต่อ
- PTE Academic UKVI: เป็นการทดสอบภาษาอังกฤษ เพื่อวัตถุประสงค์หลักในการยื่นวีซ่าเพื่อย้ายถิ่นฐาน สำหรับการทำงาน เรียน และอยู่อาศัย
- PTE Home เป็นการสอบภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ที่ศูนย์ทดสอบ PTE โดยจะเน้นไปที่ทักษะด้านการฟังและการพูด สามารถจองล่วงหน้าได้ภายใน 24 ชั่วโมง และประกาศผลสอบภายใน 48 ชั่วโมงหลังสอบเสร็จ ผลสอบที่ได้ จะสามารถนำไปยื่นขอวีซ่าครอบครัวหรือวีซ่าสำหรับการย้ายถิ่นฐาน ตามความสามารถทางภาษาทั้ง 3 ระดับจากสหภาพยุโรปคือ A1, A2 และ B1
ข้อสอบ PTE แบ่งออกเป็นกี่ส่วน อะไรบ้าง
การสอบ PTE จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ส่วน ดังนี้
- การพูดและการเขียน (Speaking & Writing): ใช้เวลา 54-67 นาที ประกอบไปด้วย 7 ประเภทคำถาม และนับว่าเป็นส่วนที่ใช้เวลานานที่สุดในการสอบ ซึ่งภาษาอังกฤษที่ใช้ทดสอบในพาร์ทนี้ จะเป็นภาษาอังกฤษที่เราอาจจะคุ้นเคยดีในสภาพแวดล้อมการเรียน
- การอ่าน (Reading): ในส่วนการอ่านจะใช้เวลา 29-30 นาที ประกอบไปด้วย 5 ประเภทคำถาม ซึ่งการสอบแบบ PTE Academic จะเป็นทดสอบแบบรวมทักษะ ยกตัวอย่างเช่น การอ่านและการเขียน ใช้วิธีการเติมคำในช่องว่างเป็นต้น
- การฟัง (Listening): ในส่วนการฟัง จะใช้เวลาในการสอบ 30-43 นาที ประกอบไปด้วย 8 ประเภทคำถาม ซึ่งคำถามจะอยู่ในคลิปเสียงหรือคลิปวีดีโอ ที่จะเริ่มโดยอัตโนมัติและจะได้ยินเพียง 1 ครั้งเท่านั้น แต่ผู้สอบสามารถจดโน้ตได้
การสอบ PTE ต่างจาก IELTS อย่างไร
ถึงแม้จะเป็นการสอบวัดระดับทางภาษาเหมือนกัน แต่การสอบ PTE จะมีความแตกต่างจากการสอบ IELTS อยู่ดังนี้
- รูปแบบการสอบ: PTE จะสอบผ่านระบบออนไลน์ในคอมพิวเตอร์ แต่ IELTS จะสอบกับคอมพิวเตอร์หรือสอบแบบกระดาษ และในส่วนการพูด IELTS จะต้องสอบพูดกับคนจริง
- พาร์ทการสอบ: ส่วนของการสอบจะค่อนข้างคล้ายกัน เพียงแต่ PTE จะรวมเอาการพูดและการเขียนรวมเข้าไว้ด้วยกัน แต่ IELTS จะแยกการพูดออกมาเป็นหนึ่งพาร์ทเต็มๆ
- เวลาในการทำข้อสอบ: PTE จะใช้เวลา 2 ชั่วโมงแต่ IELTS จะใช้เวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที
โดยบ่อยครั้งมักจะมีคำถามว่า ข้อสอบ PTE กับข้อสอบ IELTS อันไหนยากกว่ากัน? ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ข้อสอบทั้ง 2 ประเภทมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน หากอยากเปรียบเทียบเบื้องต้น ก็อาจจะลองเข้าไปดูตัวอย่างข้อสอบในเว็บไซต์ หรือสามารถซื้อหนังสือมาเพื่อลองทำข้อสอบเพื่อเปรียบเทียบกันดูก่อนได้
สามารถใช้คะแนนสอบ PTE ยื่นอะไรได้บ้าง
คะแนนสอบ PTE Academic สามารถใช้ประกอบเอกสารเพื่อยื่นขอวีซ่าสำหรับการศึกษาต่อและการอยู่อาศัย โดยเป็นที่ยอมรับจากสถาบันชั้นนำมากกว่า 3000 แห่งทั่วโลก ครอบคลุมถึงประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และรวมไปถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังในสหราชอาณาจักรอย่าง มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด, Harvard Business school และ Yale เป็นต้น
วิธีการสมัครและค่าใช้จ่ายในการสอบ PTE
วิธีการสมัครสอบ PTE
สามารถทำได้โดยเข้าไปสมัครจากทางหน้าเว็บไซต์ Pearson PTE จากนั้นลงทะเบียนสร้างบัญชีผู้ใช้ และเลือกสนามสอบ โดยในประเทศไทยจะมีสนามสอบที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น สำหรับการสอบ PTE Academic ที่สถาบันจะมีรอบการสอบ 2 วัน/สัปดาห์ และในแต่ละวันจะมีรอบให้เลือก 1-3 รอบ และหากใครไม่สะดวก สามารถสมัครสอบแบบ PTE Academic online ผ่านทางออนไลน์ได้อีกด้วย เมื่อสอบวัดผลเสร็จ จะได้รับผลสอบภายใน 48 ชั่วโมง และผลสอบจะมีอายุ 2 ปี
ค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบ
หากเป็น PTE Academic ไม่ว่าจะเป็นการสอบที่สถาบันหรือออนไลน์ จะมีราคาเดียวอยู่ที่ $200 หรือประมาณ 6880 บาทไทย แต่ถ้าเป็นประเภท PTE Home จะอยู่ที่ $175 หรือประมาณ 6025 บาทไทย
รู้รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบ PTE กันไปแล้ว ก็ได้เวลาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบกันล่ะ แต่ถ้าใครไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก็สามารถหาซื้อหนังสือเตรียมสอบ PTE มาลองฝึกทำข้อสอบกันได้ แต่ถ้าจะให้ดีแบบที่สอบครั้งเดียวผ่านฉลุย! แนะนำว่าให้ลองหาสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่น่าเชื่อถือ มาเป็นตัวช่วยในการเตรียมความพร้อมจะดีที่สุด
ท้ายสุดนี้ อย่าลืมลองแวะดูคอร์ส IELTS จากเรา หรือคอร์สเรียนอื่นๆ ตามที่เหมาะสมกับการเตรียมตัวสอบของคุณ ที่ EFL มีคอร์สสอนภาษาอังกฤษให้เลือกหลากหลายสำหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย ทุกการเตรียมสอบวัดระดับ หรือศึกษาต่อ หากยังไม่มั่นใจว่าคุณควรจะเลือกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบไหนดี เพื่อให้เหมาะกับตัวคุณเองมากที่สุด สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางต่างๆ เพื่อปรึกษาวางแผนการเรียนได้ตลอดเวลา เรายินดีพร้อมให้บริการคุณ